สังคมนิยม: ทางรอดจากวิกฤตเศรษฐกิจ (3)
แนวทางสร้างอาชีพให้กับผู้ว่างงาน นั้นอาจจะเป็นปัญหาใหญ่ของรัฐ แต่ทางผู้เขียนก็มีข้อเสนออยู่บ้าง ซึ่งคงไม่ใช่ว่าจะเอาไปใช้ได้เลย คิดว่าคงจะต้องมีการวิเคราะห์ผลกระทบ แล้ว ปรับปรุงเงื่อนไขบ้างบางส่วน
- นักพัฒนาและวิจัย อาชีพนี้จำเป็นจะต้องใช้เวลา จนกว่าจะเห็นผลตอบแทนของการลงทุนในการวิจัย และการพัฒนานั้นๆ แต่ในสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งหน่วยเศรษฐกิจภาคเอกชน ประสบปัญหาจนไม่สามารถลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนา ทั้งในด้าน องค์ความรู้ และ ทรัพยากรบุคคล ได้ ก็เป็นหน้าที่ของรัฐที่จะลงทุนในด้านนี้ และผลตอบแทนที่ได้จากการวิจัยพัฒนาก็สามารถสร้างประโยชน์ให้ประชาชนและประเทศชาิติได้
- เกษตรกรแบบยั่งยืน แน่นอน ในปัจจุบัน อาชีพเกษตรกร ก็เป็นอาชีพที่ทำรายได้ให้ประเทศไทยอยู่แล้ว แต่ปัญหาที่เกษตรกรประสบอยู่คือ การที่รายได้ขึ้นกับสภาพตลาด และ ไม่มีอำนาจในการต่อรอง ซึ่งทั้งหมดล้วนมีสาเหตมาจาก การที่เกษตรกรไม่มีการศึกษาที่เพียงพอ (มิได้หมายความว่า จำเป็นต้องเรียนหนังสือให้สูงๆ แต่หมายความว่า เกษตรกรต้องมีความรู้และความเข้าใจในอาชีพของตัวเอง และ แนวทางการตลาดที่เหมาะสม) ไม่มีการรวมตัวกันเพื่อเพิ่มอำนาจในการต่อรอง ดังนั้น สิ่งที่รัฐจะต้องดำเินินการนอกจากการหาที่ทำกินให้(เช่า?)แล้ว ยังจำเป็นจะต้องให้ความรู้ โดยการหาตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จในอาชีพเกษตร และ ควรจะมีการส่งเสริมการแปรรูปผลผลิตเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรด้วย
- นักอนุรักษ์ แน่นอน อาชีพนี้ต้องมีหน่วยงานที่คอยให้การสนับสนุน เพราะนักอนุรักษ์นั้น ไม่ได้ทำประโยชน์โดยตรงให้ใคร ดังนั้น อาชีพนี้ โดยปกติแล้ว จะไม่ค่อยมีผู้สนใจจะทำสักเท่าไร แต่ถ้าหากว่าได้มีการวางนโยบาย และ ประสานงานกันด้วยดีแล้ว ผู้ที่จะได้ประโยชน์ก็คือประชาชนในประเทศนั่นเอง
- ศิลปาชีพ อันนี้พระราชินีทรงส่งเสริมอยู่แล้ว ไม่ต้องอธิบายรายละเอียดมาก แต่อาจจะต้องหาตลาด และทำการวิจัยพัฒนาสินค้าเพิ่ม
นี่เป็นตัวอย่างเพื่อให้เห็นว่า ถึงแม้ว่าตลาดภายนอกประเทศจะมีปัญหา แต่ก็ยังมีทางที่รัฐจะลงทุนสร้างอาชีพได้ ถ้าหากว่ามีความเห็นอะไรกับแนวคิดนี้ รบกวนช่วยทิ้ง comment ไว้ด้วยนะครับ
Labels: เศรษฐศาสตร์
